Categories
Uncategorized

การเลือกหมวกให้เหมาะกับตัวเอง

หมวกเป็นเครื่องประดับที่มีประโยชน์และสามารถเสริมลุคให้ดูดีได้อย่างมาก แต่การเลือกหมวกให้เหมาะสมกับตัวเองนั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย บทความนี้จะแนะนำวิธีการเลือกหมวกให้เหมาะกับรูปหน้า สไตล์ และโอกาสการใช้งาน เพื่อให้คุณมั่นใจว่าได้หมวกที่ใส่แล้วดูดีที่สุด

1. พิจารณารูปหน้าของคุณ

รูปหน้าเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกหมวก เพราะหมวกที่เหมาะสมจะช่วยเสริมจุดเด่นและลดจุดด้อยของใบหน้าได้ ลองพิจารณารูปหน้าของคุณว่าเป็นแบบใด:

– หน้ากลม: ควรเลือกหมวกทรงสูงหรือมีปีกกว้างเพื่อช่วยยืดใบหน้าให้ดูยาวขึ้น
– หน้ายาว: หมวกทรงต่ำหรือมีปีกกว้างจะช่วยทำให้ใบหน้าดูสั้นลง
– หน้าเหลี่ยม: หมวกทรงกลมหรือมีเส้นโค้งจะช่วยลดความแข็งของรูปหน้า
– หน้าหัวใจ: หมวกปีกแคบหรือทรงหมวกเบสบอลจะเหมาะกับรูปหน้านี้
– หน้ารูปไข่: สามารถใส่หมวกได้หลากหลายแบบ เพราะรูปหน้าสมส่วน

2. คำนึงถึงสไตล์การแต่งตัว

หมวกควรเข้ากับสไตล์การแต่งตัวโดยรวมของคุณ ลองพิจารณาว่าคุณชอบแต่งตัวแบบไหน:

– สไตล์คลาสสิก: หมวกปานามา หมวกเฟดอรา หรือหมวกปีกกว้างจะเข้ากับลุคนี้ได้ดี
– สไตล์สบายๆ: หมวกเบสบอล หมวกบักเก็ต หรือหมวกบีนนี่เหมาะกับการแต่งตัวลำลอง
– สไตล์หรูหรา: หมวกคล็อช หมวกฟาซินาเตอร์ หรือหมวกปีกกว้างแบบหรูหราจะเสริมลุคได้ดี
– สไตล์สปอร์ต: หมวกแก๊ป หมวกวิซอร์ หรือหมวกเบสบอลเหมาะกับการแต่งตัวแนวกีฬา

3. พิจารณาโอกาสในการใช้งาน

หมวกแต่ละแบบเหมาะกับโอกาสที่แตกต่างกัน ควรเลือกให้เหมาะสม:

– งานกลางแจ้ง: หมวกปีกกว้างหรือหมวกปานามาช่วยป้องกันแดดได้ดี
– งานทางการ: หมวกเฟดอราหรือหมวกโบว์เลอร์ดูเป็นทางการและสุภาพ
– งานปาร์ตี้: หมวกฟาซินาเตอร์หรือหมวกค็อกเทลเพิ่มความสนุกให้ลุค
– กิจกรรมกีฬา: หมวกเบสบอลหรือหมวกวิซอร์เหมาะสำหรับการออกกำลังกาย

4. เลือกวัสดุให้เหมาะกับฤดูกาล

วัสดุของหมวกมีผลต่อความสบายในการสวมใส่:

– หน้าร้อน: เลือกหมวกที่ทำจากฟางหรือผ้าฝ้ายเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี
– หน้าหนาว: หมวกขนสัตว์หรือหมวกไหมพรมจะช่วยให้อบอุ่น
– ฤดูฝน: หมวกที่ทำจากวัสดุกันน้ำจะช่วยป้องกันเวลาฝนตก

5. ลองสวมก่อนซื้อ

การลองสวมหมวกก่อนซื้อเป็นสิ่งสำคัญ ควรพิจารณา:

– ขนาด: หมวกไม่ควรคับหรือหลวมเกินไป ควรพอดีกับศีรษะ
– ความสบาย: ลองสวมหมวกสักพักเพื่อดูว่ารู้สึกสบายหรือไม่
– การมองเห็น: ตรวจสอบว่าปีกหมวกไม่บังสายตาจนเกินไป

6. ดูแลรักษาหมวกให้ถูกวิธี

การดูแลรักษาหมวกอย่างถูกต้องจะช่วยยืดอายุการใช้งาน:

– เก็บหมวกในที่แห้งและเย็น ห่างจากแสงแดดโดยตรง
– ทำความสะอาดตามคำแนะนำบนป้ายกำกับ
– ใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นออกเป็นประจำ
– หากหมวกเปียก ปล่อยให้แห้งตามธรรมชาติ อย่าใช้ความร้อน

สรุป

การเลือกหมวกที่เหมาะสมไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมลุคให้ดูดีเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้สวมใส่ด้วย การพิจารณารูปหน้า สไตล์การแต่งตัว โอกาสในการใช้งาน และฤดูกาล จะช่วยให้คุณเลือกหมวกได้อย่างเหมาะสม อย่าลืมลองสวมก่อนซื้อและดูแลรักษาหมวกอย่างถูกวิธี เพื่อให้หมวกของคุณอยู่กับคุณได้นานๆ และดูดีอยู่เสมอ

Categories
Uncategorized

โรงงานผลิตหมวก: จากแนวคิดสู่แฟชั่นบนศีรษะ

โรงงานผลิตหมวกเป็นสถานที่ที่รวมศิลปะ การออกแบบ และกระบวนการอุตสาหกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ที่นี่ วัตถุดิบนานาชนิดถูกแปรรูปให้กลายเป็นหมวกหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่หมวกแก๊ปสุดคลาสสิกไปจนถึงหมวกปีกกว้างสุดหรู โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ซับซ้อนและพิถีพิถัน

1. การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์

กระบวนการเริ่มต้นในแผนกออกแบบ ที่นี่นักออกแบบจะสร้างสรรค์แบบหมวกใหม่ๆ โดยคำนึงถึงเทรนด์แฟชั่น ความต้องการของตลาด และการใช้งานจริง พวกเขาต้องพิจารณาทั้งความสวยงาม ความสบายในการสวมใส่ และความเป็นไปได้ในการผลิตจริง เมื่อได้แบบที่พอใจแล้ว จะมีการสร้างต้นแบบเพื่อทดสอบและปรับปรุงก่อนเข้าสู่การผลิตจริง

2. การเลือกวัสดุ

การเลือกวัสดุเป็นขั้นตอนสำคัญที่ส่งผลต่อคุณภาพและลักษณะของหมวก วัสดุที่นิยมใช้ได้แก่ ผ้าฝ้าย ผ้าโพลีเอสเตอร์ ผ้าขนสัตว์ หนัง และวัสดุสังเคราะห์ต่างๆ แต่ละชนิดมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น ความทนทาน ความยืดหยุ่น และการระบายอากาศ การเลือกวัสดุต้องคำนึงถึงฤดูกาล ประเภทของหมวก และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย

3. กระบวนการผลิต

3.1 การตัดแบบ: เครื่องตัดอัตโนมัติหรือช่างฝีมือจะตัดวัสดุตามแบบที่กำหนดไว้ ความแม่นยำในขั้นตอนนี้มีความสำคัญมากเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่มีขนาดถูกต้อง

3.2 การเย็บ: ชิ้นส่วนต่างๆ จะถูกนำมาเย็บประกอบกันด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัยและฝีมือช่างผู้ชำนาญ ในขั้นตอนนี้อาจมีการเสริมความแข็งแรงในจุดต่างๆ เช่น ขอบหมวก หรือการเย็บตะเข็บพิเศษเพื่อเพิ่มความสวยงาม

3.3 การขึ้นรูป: หมวกบางประเภท เช่น หมวกเฟลต์ ต้องผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยความร้อนและแรงกด เพื่อให้ได้รูปทรงที่ต้องการ

3.4 การตกแต่ง: ขั้นตอนนี้รวมถึงการติดปีก การเย็บสายรัดคาง การปักโลโก้ หรือการประดับด้วยอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ เช่น ดอกไม้ ริบบิ้น หรือเข็มกลัด

4. การควบคุมคุณภาพ

ทุกขั้นตอนของการผลิตจะมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในขั้นตอนสุดท้ายก่อนบรรจุหีบห่อ เจ้าหน้าที่ควบคุมคุณภาพจะตรวจสอบความเรียบร้อยของรอยเย็บ ความสมมาตรของรูปทรง และคุณภาพโดยรวมของหมวกแต่ละใบ หมวกที่ไม่ผ่านมาตรฐานจะถูกคัดแยกออกเพื่อแก้ไขหรือกำจัดทิ้ง

5. การบรรจุภัณฑ์และการจัดส่ง

หมวกที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วจะถูกบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อป้องกันการเสียรูปทรงระหว่างการขนส่ง จากนั้นจึงจัดส่งไปยังร้านค้าปลีกหรือลูกค้าโดยตรง

6. นวัตกรรมและความท้าทาย

โรงงานผลิตหมวกในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ:

6.1 ความยั่งยืน: ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โรงงานจึงต้องหาวิธีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิล การลดการใช้พลาสติก และการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ

6.2 เทคโนโลยีการผลิต: การนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เช่น การพิมพ์ 3D หรือระบบอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน แต่ก็ต้องลงทุนสูงในช่วงแรก

6.3 การปรับตัวตามเทรนด์: แฟชั่นมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โรงงานต้องสามารถปรับเปลี่ยนการผลิตให้ทันกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไป

6.4 การแข่งขันในตลาดโลก: การแข่งขันจากผู้ผลิตในประเทศที่มีต้นทุนแรงงานต่ำกว่า ทำให้โรงงานต้องหาวิธีเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ เช่น การเน้นคุณภาพ การสร้างแบรนด์ หรือการให้บริการที่เหนือกว่า

สรุป

โรงงานผลิตหมวกเป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างงานฝีมือดั้งเดิมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ความสำเร็จของโรงงานขึ้นอยู่กับความสามารถในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทั้งด้านแฟชั่น ประโยชน์ใช้สอย และความคุ้มค่า ในขณะเดียวกันก็ต้องรับมือกับความท้าทายด้านความยั่งยืนและการแข่งขันในตลาดโลก การพัฒนาอย่างต่อเนื่องทั้งในด้านการออกแบบ กระบวนการผลิต และการบริหารจัดการ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้โรงงานผลิตหมวกสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมแฟชั่นที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

Categories
Uncategorized

กระบวนการทำงานภายในโรงงานผลิตหมวก

 

โรงงานผลิตหมวกเป็นสถานที่ซึ่งรวมเอาศิลปะ การออกแบบ และกระบวนการผลิตเข้าด้วยกันเพื่อสร้างสรรค์อุปกรณ์สวมใส่บนศีรษะที่ทั้งสวยงามและมีประโยชน์ใช้สอย ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปสำรวจกระบวนการทำงานภายในโรงงานผลิตหมวก ตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป

1. การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โรงงานผลิตหมวกเริ่มต้นด้วยขั้นตอนการออกแบบ นักออกแบบจะสร้างสรรค์แบบหมวกใหม่ๆ โดยคำนึงถึงแนวโน้มแฟชั่น ความต้องการของตลาด และการใช้งาน ในขั้นตอนนี้จะมีการสร้างแบบร่าง การเลือกวัสดุ และการทำต้นแบบเพื่อทดสอบก่อนการผลิตจริง

2. การเตรียมวัตถุดิบ วัตถุดิบหลักในการผลิตหมวกมักประกอบด้วยผ้า หนัง หรือวัสดุสังเคราะห์ต่างๆ โรงงานจะคัดเลือกวัสดุที่มีคุณภาพเหมาะสมกับประเภทของหมวกที่จะผลิต มีการตรวจสอบคุณภาพวัตถุดิบอย่างละเอียดก่อนนำเข้าสู่กระบวนการผลิต

3. การตัดและขึ้นรูป เครื่องจักรที่ทันสมัยจะถูกใช้ในการตัดวัสดุตามแบบที่กำหนด จากนั้นจะมีการขึ้นรูปหมวกโดยใช้เทคนิคต่างๆ เช่น การอัดขึ้นรูป การเย็บ หรือการพับขึ้นอยู่กับประเภทของหมวก

4. การเย็บและประกอบ ชิ้นส่วนต่างๆ ของหมวกจะถูกนำมาเย็บและประกอบเข้าด้วยกัน ในขั้นตอนนี้ต้องอาศัยทักษะและความประณีตของช่างฝีมือเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับหมวกที่มีรายละเอียดซับซ้อน

5. การตกแต่งและเพิ่มรายละเอียด หลังจากได้โครงสร้างหลักของหมวกแล้ว จะมีการเพิ่มรายละเอียดต่างๆ เช่น การปักโลโก้ การติดกระดุม หรือการประดับตกแต่งอื่นๆ ตามดีไซน์ที่กำหนด

6. การควบคุมคุณภาพ ทุกขั้นตอนของการผลิตจะมีการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในขั้นตอนสุดท้ายก่อนบรรจุหีบห่อ เพื่อให้มั่นใจว่าหมวกทุกใบมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่กำหนด

7. การบรรจุภัณฑ์และจัดส่ง หมวกที่ผ่านการตรวจสอบคุณภาพแล้วจะถูกบรรจุลงในบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง จากนั้นจึงจัดส่งไปยังลูกค้าหรือร้านค้าปลีก

8. การวิจัยและพัฒนา โรงงานผลิตหมวกที่ทันสมัยมักมีแผนกวิจัยและพัฒนาเพื่อค้นคว้าวัสดุใหม่ๆ เทคโนโลยีการผลิต และนวัตกรรมต่างๆ เพื่อปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์และประสิทธิภาพในการผลิต

9. ความท้าทายและแนวโน้มในอุตสาหกรรม โรงงานผลิตหมวกต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ เช่น การแข่งขันด้านราคาจากตลาดต่างประเทศ ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และการปรับตัวให้ทันกับแนวโน้มแฟชั่นที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการใส่ใจสุขภาพและการป้องกันแสงแดดทำให้ตลาดหมวกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง

10. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม โรงงานผลิตหมวกมีบทบาทสำคัญในการสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น นอกจากนี้ ยังมีส่วนในการอนุรักษ์และพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานในการผลิตสินค้าแฟชั่น

สรุป โรงงานผลิตหมวกเป็นตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสมัยใหม่และงานฝีมือดั้งเดิม การเข้าใจกระบวนการผลิตและความท้าทายในอุตสาหกรรมนี้ช่วยให้เราเห็นคุณค่าของหมวกแต่ละใบมากขึ้น และตระหนักถึงความพยายามที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแฟชั่นบนศีรษะที่เราสวมใส่ในชีวิตประจำวัน

Categories
Uncategorized

กําเนิดผ้าโพลีเอสเตอร์

 

กําเนิด ผ้าโพลีเอสเตอร์

ผมเชื่อว่า ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) เป็ นผ้าที่หลายคนคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเพราะเสื้อยืดจาก
หลากหลายแบรนด์ต่างก็นิยมหยิบเอาผ้าชนิดนี้มาผลิต ไม่ว่าจะเป็ น เสื้อกีฬา เสื้อยืดลําลอง เสื้อโปโล ฯลฯ
แต่ทุกคนทราบกันหรือเปล่าครับว่าจริง ๆ แล้วผ้าโพลีเอสเตอร์ที่เราคุ้นเคยกันนี้มันมีต้นกําเนิดมาจากไหน
และมันผลิตขึ้นมาจากวัสดุอะไร

 

 

 

 

 

 

 

เดิมทีผ้าโพลีเอสเตอร์มีชื่อเรียกอื่น ๆ ด้วยนะครับ เช่น ผ้าเส้นใยสังเคราะห์ ผ้าเส้นใยผลาสติก หรือ
แม้กระทังผ้าเส้นใยเคมี โดยผ้าชนิดนี้มีต้นกําเนิดมาตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1941โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ
สองคนคือ John Rex Whinfield และ James Tennant Dickson ซึ่งทั้งสองคนนี้ได้ทําการใช้ Thylene Glycol
กับ กรด Terephthalic มาผ่านกระบวนการทางเคมีจนให้กําเนิดเส้นใยขึ้นมา เป็ นเส้นใยพลาสติกที่มีความ
ยืดหยุ่นและความทนทานในระดับสูง ซึ่งในช่วงปี 1941 อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมแพร่หลายมากนัก
จนกระทัง่ ช่วงปี ค.ศ.1946 มีบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่งได้ทําการขอซื้อลิขสิทธิ์ผ้าชนิดนี้และนํามาผลิตสินค้า
ประเภทต่าง ๆ ทําให้กลายเป็ นจุดเริ่มต้นความนิยมของผ้าชนิดนี้ในเวลาต่อมา

คุณสมบัติที่โดดเด่นของ ผ้าโพลีเอสเตอร์

เหตุผลที่ผ้าโพลีเอสเตอร์กลายเป็นผ้าที่ได้รับความนิยมสูงไม่ใช้เพราะความสวยงามของเนื้อผ้า แต่
เป็นในเรื่องของความทนทานที่เนื้อผ้าสามารถมอบให้ได้ครับ เส้นใยละเอียดที่โพลีเอสเตอร์ถูกถักทอมี
ความยืดหยุ่นในระดับสูง มีคุณสมบัติไม่ยับง่ายหลังซักทําให้สะดวกสบายต่อการสวมใส่ ไม่ดูดซับความชื้น
เหมือนกับผ้าจากธรรมชาติซึ่งทําให้ผ้าชนิดนี้มีการสะสมเชื้อโรคได้ในระดับที่น้อยกว่าผ้าจากธรรมชาติที่
มักโดดเด่นในเรื่องคุณสมบัติของสัมผัสที่นุ่มแต่การระบายอากาศไม่ดี ที่สําคัญคือเมื่อสวมใส่ต่อเนื่องนาน ๆ
และผ่านการทําความสะอาด ผ้าโพลีเอสเตอร์จะยังคงรูปได้ดีกว่าและเกิดการหดตัวน้อยกว่าผ้าที่ผลิตขึ้นจาก
ธรรมชาตินอกจากนี้สําหรับบางคนที่มีผิวแพ้ง่ายและอาจเกิดการแพ้ผิวผ้าธรรมชาติ เช่น เส้นใยฝ้ายที่มักจะ
มีโปรตีนผสมอยู่ในเส้นใย ผ้าโพลีเอสเตอร์ก็เป็ นผ้าอีกหนึ่งชนิดที่ถูกนํามาผลิตสินค้าสําหรับผู้มีผิวแพ้ง่าย
เช่นเดียวกันครับ

 

ผ้าโพลีเอสเตอร์  ใช้ผลิตอะไรถึงจะเหมาะสม

ก่อนอื่นต้องเข้าใจตรงกันก่อนนะครับว่าผ้าโพลีเอสเตอร์นั้นมีหลายชนิดยกตัวอย่างเช่น ผ้าทอโพลี
เอสเตอร์ทัวไป ผ้ายืดโพลีเอสเตอร์ ่ หรือแม้กระทังผ้าโพลีเอ ่ สเตอร์ที่มีการผสมเส้นใยชนิดอื่น เป็นต้น ซึ่งแต่
ละชนิดนี้เองต่างก็มีคุณสมบัติข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณสมบัติเด่น ๆ เช่น ความ
ทนทาน การไม่ดูดซับนํ้า การระบายอากาศจากการถักทอเส้นใยละเอียด ก็ยังคงเป็นคุณสมบัติที่
ผ้าโพลีเอสเตอร์ทุกชนิดมี ดังนั้นผ้าชนิดนี้จึงถือเป็ นหนึ่ งในผ้าที่สามารถนํามาผลิตสินค้าได้หลากหลายแบบมาก
ทีเดียวครับ ไม่ว่าจะนํามาผลิตเสื้อยืดชุดลําลองทัวไป เสื้อกีฬา กางเกง กระเป๋า หมวก ก็สามารถใช้ผ้าชนิดนี้
ได้ทั้งหมด อีกทั้งด้วยความที่ผ้าโพลีเอสเตอร์เป็นผ้าที่ได้รับความนิยมสูงในท้องตลาด ดังนั้นเกือบทุก
โรงงานที่รับผลิตสินค้าเกี่ยวกับผ้ามักจะมีผ้าชนิดนี้อยู่เสมอ ไม่ต้องเสียเวลาตามหาด้วยตัวเอง ราคาต้นทุน
ของผ้าตํ่ากว่าผ้าจากธรรมชาติหลายประเภท ทําให้เป็ นมิตรสําหรับเจ้าของแบรนด์หน้าใหม่ที่ต้องการสต็อก
สินค้าจํานวนมาก หรือผู้ที่อยากเริ่มต้นผลิตสินค้าประเภทผ้าแต่ยังมีต้นทุนตํ่า ด้วยความทนทานของใยผ้า ไม่
ว่าจะเป็ นการออกแบบรูปแบบไหน ผ้าโพลีเอสเตอร์ก็สามารถรองรับได้ เช่น การสกรีน การปัก หรือการตัด
เย็บรูปแบบพิเศษ เรียกได้ว่าเป็ นวัสดุเริ่มต้นที่ใช้งานง่ายเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ ครับ
สุดท้ายนี้แม้ผ้าโพลีเอสเตอร์จะมีข้อดีมากมาย ราคาต้นทุนตํ่า แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่ชื่นชอบผ้าชนิดนี้
เหมือนกันทั้งหมด ด้วยความที่เนื้อผ้าโพลีเอสเตอร์เป็ นผ้าสังเคราะห์จากเคมี ทําให้สัมผัสความนุ่มของ
เนื้อผ้าอาจจะไม่ได้โดดเด่นเท่าผ้า Cottonผ้าฝ้าย หรือผ้าชนิดอื่นที่ผลิตจากธรรมชาติ ดังนั้นหากคุณต้องการ
เป็ นผู้ผลิตคุณควรข้าใจกลุ่มเป้าหมายในการผลิตสินค้าของคุณให้ดีก่อนการตัดสินใจเลือกใช้ชนิดผ้าแต่ละ
ชนิดนะครับ

 

วิธีการดูแลผ้า โพลีเอสเตอร์

อย่างที่ผมได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้เส้นใยโพลีเอสเตอร์เกิดจากปฏิกิริยาเคมีไม่ใช้เส้นใยที่ถักทอ
จากธรรมชาติหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของผ้าชนิดนี้คือความทนทาน ผ้าโพลีเอสเตอร์จึงเป็ นผ้าที่ไม่
จําเป็ นจะต้องมีการดูแลเป็ นพิเศษเหมือนผ้าชนิดอื่น ๆ เช่น ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ที่มีความบอบบางสูง คุณสามารถ
ซักทําความสะอาดผ้าโพลีเอสเตอร์แบบทัวไปได้ ่ สามารถใช้นํ้ายาซักผ้า นํ้ายาปรับผ้านุ่ม สารฟอกขาว โดย
ไม่ต้องกังวลว่าเส้นใยของผ้าจะเกิดการเสื่อมสภาพ แต่อาจจะมีข้อแนะนําเล็ก ๆ น้อย ๆ ขณะการตากคือเมื่อ
ทําการซักเสร็จแล้ว ไม่ควรบิดผ้าเพราะอาจทําให้เส้นใยผ้าหักและเสียหายได้ อีกทั้งเพราะผ้าชนิดนี้เป็นผ้าที่
ยับยาก หากจําเป็ นต้องรีดเสื้อผ้าโพลีเอสเตอร์แนะนําให้ปรับเป็ นไฟอ่อนจะช่วยถนอมเนื้อผ้าได้ดีครับ

 

ผ้าโพลีเอสเตอร์สามารถนำมาทำได้ทั้งหมวก และ กระเป๋า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ

https://mala-thong.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%81-%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%b3/

 

ที่มารูปภาพ https://www.freepik.com/free-photo/multi-color-fabric-texture-samples_1273373.htm#fromView=search&page=1&position=11&uuid=0c5f6eff-4bc7-4c05-a434-d549cdd3bbb4

 

Categories
Uncategorized

หมวกทรงก้นถัง หมวกข้ามยุคสมัย

หมวกบักเก็ต ทรงก้นถัง หมวกข้ามยุคสมัย

 


หลายคนคงจะคุ้นเคยกับหมวกทรงก้นถังหรืออาจจะเรียกว่า หมวกบักเก็ต (Bucket Hat) กันดี เพราะในปัจจุบัน ผมไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่าหมวกทรงนี้เป็นหนึ่งในหมวกที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีหลายแบรนด์หยิบนำเอารูปทรงของหมวกไปดีไซน์จนทำให้เกิดแฟชั่นการสวม หมวกที่หลากหลายยิ่งขึ้น แต่ทุกคนทราบกันหรือเปล่าครับว่าหมวกทรงถังจริง ๆ แล้วมันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน และจุดประสงค์ที่แท้จริงสำหรับการคิดค้นหมวกทรงถังที่เราสวมใส่กันอยู่ทุกวันนี้คืออะไร

จริง ๆ แล้วเราก็ไม่ได้มีข้อมูลที่แน่นอนสำหรับวันที่มีการคิดค้นหมวกชนิดนี้ขึ้นมา แต่เราพอจะทราบได้ว่าหมวกทรงถังนี้มันเริ่มมีขึ้นในช่วง ๆ ค.ศ. 1900 และเราจะเรียกมันในอีกชื่อหนึ่งว่า Fisherman Hat หรือหมวกสำหรับชาวประมงนั่นเองครับ หมวกทรงก้นถังนี้เป็นหมวกที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเลยสำหรับชาวไร่ ชาวสวนรวมไปถึงชาวประมงโดยเฉพาะชาวไอริสที่ต้องการสวมใส่เพื่อป้องกันเวลาฝนตก เนื่องจากสมัยก่อนวัสดุที่ถูกนำมาใช้ผลิตหมวกชนิดนี้คือผ้าวูลหรือใยขนสัตว์จำพวกแกะ ซึ่งผ้าตัวนี้จะมีไขมันหลงเหลืออยู่ทำให้มีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำด้วยนั่นเอง จนกระทั่งช่วงต้นสงครามโลกครั้งที่ 2 หมวกถังที่เราคุ้นเคยกันนี้ก็ได้รับความนิยมในระดับนานาประเทศแล้วครับ อาจจะเป็นเพราะรูปทรงที่พกพาสะดวก สามารถพับเก็บได้แถมยังมีปีกหมวกเล็ก ๆ สำหรับบังแสงแดดได้ด้วย

ซึ่งจากหมวกที่นิยมนำมาใช้บดบังแสงแดดขณะทำงานสวน หรืองานประมงก็ถูกปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย โดยในช่วงยุค 1990 กลุ่มศิลปิน Rapper ได้หยิบนำเอาหมวกทรงถังมาสวมใส่กันจนกลายมาเป็นการสวมใส่เพื่อแฟชั่นและได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย หลายแบรนด์ชั้นนำไม่ว่าจะแบรนด์กีฬาหรือแบรนด์เสื้อผ้าก็มีการออกแบบดีไซน์เพิ่มความสวยงามลงไปอย่างที่หลาย ๆ คนชื่นชอบนั่นเองครับ

ผ้าชนิดไหนที่นิยมมาผลิต หมวกบักเก็ต

            หากให้ผมอธิบายว่าผ้าชนิดไหนที่นิยมมาผลิตหมวกทรงถัง ในอดีตผ้าที่นิยมนำมาใช้ก็คือผ้าวูลหรือผ้าขนสัตว์นี่แหละครับ แต่เพราะปัจจุบันนี้หมวกทรงถังอาจจะไม่ได้นิยมนำมาสวมสำหรับการทำงานไร่ งานสวนอีกต่อไป วัสดุที่หลายแบรนด์เลือกใช้จึงปรับเปลี่ยนมาเป็นผ้า Cotton ซึ่งเป็นผ้าที่หาซื้อได้ทั่วไป มีการระบายอากาศที่ดี และมีสัมผัสที่นุ่ม ที่สำคัญคือผ้า Cotton เป็นผ้าที่สามารถนำมาประยุกต์ตกแต่งได้หลากหลายแบบไม่ว่าจะนำมาสกรีนลาย ปักโลโก้สวย ๆ หรือจะออกแบบสีผ้าที่แตกต่างก็ทำได้ทั้งสิ้น ต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าผ้าขนสัตว์ทำให้สามารถผลิตในปริมาณมาก ๆ ได้ แต่นอกจากผ้า Cotton แล้ว ก็ยังมีผ้าชนิดอื่น ๆ ที่สามารถนำมาใช้ผลิตหมวกทรงถังได้อีกนะครับ เช่น ผ้าแคนวาส ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับแต่ละแหล่งการผลิตเลยว่าจะมีเนื้อผ้าแบบไหนให้คุณได้หยิบมาเลือกใช้งานบ้าง

ไอเดียที่แตกต่างสำหรับหมวกทรงถัง

        ปัจจุบันดีไซน์ของหมวกทรงถังมีหลากหลายแบบมากเลยครับไม่ได้มีแค่แบบเรียบง่ายที่ทำจากผ้าขนสัตว์ หรือการใช้สีพื้นทั่วไป เพราะด้วยรสนิยมที่เปลี่ยนไปของคนในยุคปัจจุบันทำให้หลายแบรนด์ได้ดีไซน์และออกแบบไอเดียใหม่ ๆ เพิ่มสีสันลงไปบน หมวก ทรงถังจนกลายเป็นหนึ่งในเครื่องแต่งกายที่คนบางกลุ่มชื่นชอบ เช่น สำหรับกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบการแต่งตัวสไตล์ Hip Hop เป็นพิเศษ จะมีการแต่งตัวที่โดดเด่น 2 แบบ คือ คนที่ชอบสวมเสื้อผ้าสีพื้น เช่น สีดำทั้งตัว สีขาวทั้งตัว หรืออาจจะเป็นสีอื่น ๆ โดยไม่มีลาย คนกลุ่มนี้มักจะชอบหมวกทรงถังที่มีสีพื้นเช่นเดียวกัน เน้นการตกแต่งแบบมินิมอลอาจใช้การปักลายลงบนหมวกเพิ่มความรู้สึกพรีเมียม ในส่วนของกลุ่มที่สองคนคนที่ชอบสวมชุดสีฉูดฉาดมีลายเยอะ ๆ คนกลุ่มนี้ก็มักจะชอบหมวกทีงถังที่มีลายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ อาจะใช้การสกรีนลายลงบนผ้า หรืออาจะใช้เนื้อผ้าที่มีการพิมพ์ลายแตกต่างกันมาประกอบเข้าด้วยกันก็จะได้หมวกที่มีความเป็นเอกลักษณ์

แต่อีกหนึ่งดีไซน์ที่เราอยากแนะนำให้คุณรู้จักหากกำลังคิดอยากลองผลิตหมวกทรงถังด้วยตนเองนั่นก็คือการออกแบบให้หมวกสามารถกลับด้านสวมใส่ได้ โดยอาจจะใช้ผ้าสองชนิดที่มีสีต่างกันเช่นด้านนอกเป็นสีดำ แต่ด้านในมีการออกแบบลายที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองก่อนจะนำมาตัดเย็บประกบเข้าด้วยกัน การออกแบบหมวกทรงถังดีไซน์นี้จะทำให้ผู้สวมสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์ของตัวเองได้โดยไม่จำเป็นต้องซื้อหมวกใบใหม่ ในวันที่แต่งตัวสีพื้นทั่วไปก็สามารถสวมหมวกด้านสีดำสำหรับการบดบังแสงแดดหรือการเสริมลุค แต่ในวันที่ต้องการความสดใสก็สามารถกลับด้านที่มีลายออกมาสวมใส่แทนได้

ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องดีไซน์เป็นแค่ส่วนหนึ่งสำหรับการออกแบบเท่านั้น หากคุณต้องการผลิตหมวกทรงถังสำหรับจัดจำหน่ายจริง ๆ คุณอาจจะต้องศึกษาเรื่องส่วนประกอบอื่นของหมวกด้วย เช่น รูตาไก่ซึ่งเป็นรูสำหรับการระบายอากาศ การมีซับในของหมวก หรือเรื่องของเชือกสำหรับรัดหากต้องการหมวกที่นำมาใส่ทำกิจกรรมได้เป็นต้นครับ ไม่ยากเลยใช่ไหมครับสำหรับเรื่องหมวก ๆ ของเราในวันนี้หวังว่าบทความนี้จะทำให้ทุกคนเข้าใจหมวกทรงถังที่เราคุ้นเคยกันมากขึ้นนะครับ

หากสนใจผลิตหมวกสามารถเข้าไปดูได้เลยครับ https://mala-thong.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a-%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%a7%e0%b8%81-%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%b5%e0%b8%82%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%b3/

 

ที่มารูปภาพ https://www.freepik.com/free-photo/full-shot-kid-exploring-natural-environment_44997717.htm#fromView=search&page=1&position=3&uuid=5904a07f-b6e0-4974-90e8-339b7b305009

 

 

Categories
Uncategorized

มาทําความร้จักเสื้อโปโลกัน

มาทําความร้จักเสื้อ โปโล กัน

เสื้อโปโล

ผมคิดว่าหลายคนคงรู้จัก เสื้อโปโล กันดีอยู่แล้วว่ามันเป็นเสื้อรูปแบบไหน แต่ทุกคนเคยสงสัยกันหรือเปล่า ครับว่า เสื้อโปโล ที่เราสวมกันอยู่ในชีวิตประจําวันนี้กําเนิดขึ้นมาได้อย่างไร จริง ๆ แล้วจุดเริ่มต้นของเสื้อโปโลอาจจะไม่ได้มีบันทึกที่แน่ชัดมากนะครับเพียงแต่ก็มีบันทึกคําบอกเล่าอยู่เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจมากทีเดียว โดยเสื้อโปโลมีจุดเริ่มต้นจากกีฬา Polo นั่นแหละครับ โดยผู้คนจะเริ่มรู้จักกีฬาชนิดนี้จากเมือง Manipur (มณีปุระ) ประเทศอินเดีย ซึ่ งในอดีตเมืองนี้เป็นเมืองอาณานิคมของประเทศอังกฤษอยู่ครับชาวเมืองอังกฤษที่อาศัยอยู่ที่นัน หรือทหารชาวอังกฤษที่ได้รับชมการแข่งขันกีฬาก็มีการนําเอากีฬา ่ Polo ไปเผยแพร่ที่ประเทศตัวเองช่วงปี 1862 จากนั้นก็เริ่มมีการพัฒนาอุปกรณ์กีฬาขึ้นมาซึ่งรวมไปถึงเสื้อด้วย มีการเพิ่มดีเทลกระดุมติดปกเข้าไป
พอพูดมาถึงตรงนี้แล้ว เอาเข้าจริงสุดท้ายเสื้อโปโลที่เราสวมใส่กันอยู่ในปัจจุบันแม้จะเรียกว่าเสื้อโปโลแต่มันก็ไม่ได้กําเนิดมาจากกีฬาโปโลแล้วนะครับ เพียงแต่จุดเริ่มต้นของรูปทรงเสื้อคอปกติดกระดุมในสมัยก่อนนันแหละครับที่มีแนวคิดมาจากกีฬาโป ่ โล แต่ เสื้อโปโล ปัจจุบันของเราเกิดขึ้นจากนักกีฬาอันดับหนึ่งของโลกอย่าง René Lacoste ต่างหากครับ เขาต้องการปรับเปลี่ยนมุมมองของกีฬาเทนนิสที่สมัยก่อนถือว่าเป็นกีฬาของคนชนชั้นสูง ต้องแต่งตัวดูดีเสื้อแขนยาวกางเกงขายาว เขาเลยออกแบบใหม่หมดเลยครับโดยใช้รูปทรงเสื้อเป็นแขนสั้นปรับแต่งให้มีปกอ่อนและกระดุมง่ายต่อการสวมใส่และเคลื่อนไหว พอ René Lacoste สวมใส่ชุดของตัวเองลงเล่นเทนนิสก็ได้รับความสนใจเป็ นอย่างมากจนนักเทนนิสหลายคนตามหาอยากได้เสื้อแบบเดียวกับเขาบ้าง ไม่ใช่แค่นั้นนะครับคนจากวงการอื่น ๆ ก็ต้องการเสื้อแบบเดียวกันนี้เช่นเดียวกันจนช่วงปี 1933 ที่เขาวางมือจากวงการเทนนิส René Lacosteกับเพื่อนของเขาก็ได้ก่อตั้งแบรนด์ Lacoste ที่ทุกคนรู้จักกันดีหลายคนเรียกว่าแบรนด์จระเข้นันแหละครับ แล้วเขาก็ได้มีการผลิต ่ เสื้อรูปแบบนี้ออกมาจาได้รับความนิยมไปทัวโลก ่ จนภายหลังคนก็เรียกเสื้อของเขาว่าเสื้อโปโลจากบันทึกก็ไม่ได้มีการบอกเล่านะครับว่าทําไมสุดท้ายเสื้อของ René Lacosteถูกเรียกว่าเสื้อโปโล แต่ถ้าให้วิเคราะห์จากประวัติคร่าว ๆ อาจจะเป็ นเพราะรูปทรงของเสื้อที่ดูคล้ายกันกับเสื้อต้นแบบในกีฬา Polo นันแหละครับเลยทําให้ทุกคนเรียกเสื้อคอปกแบบนี้ว่า Polo

 

จุดเด่นที่ทําให้หลายคนชื่นชอบ เสื้อโปโล

นอกจากความสวยงามแล้วเอาเข้าจริงจุดเด่นของเสื้อโปโลมีเยอะมากทีเดียวครับ โดยจุดเด่นแรกของเสื้อโปโลก็คือเป็ นเสื้อที่สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาสไม่ว่าจะกึ่งทางการ ใส่ทัวไป หรือ ่ สําหรับเล่นกีฬาก็ได้เพราะเสื้อโปโลเป็ นเสื้อที่มีดีไซน์เรียบง่ายมีความสุภาพเรียบร้อย แถมด้วยการที่มีคอปกอ่อนจึงดูดซับเหงื่อได้ดีและป้องกันแสงแดดบริเวณรอบคอได้ จุดเด่นต่อมาก็แน่นอนเลยครับเป็นในเรื่องของการระบายอากาศที่ดี สวมใส่แล้วคลายความมร้อนเหมาะสําหรับอากาศในเมืองไทย มีความยืดหยุ่นในระดับสูงแม้จะเป็ นทรงคอปกแต่เนื้อผ้ายืดทําให้สามารถเคลื่อนไหวสะดวกสบายไม่เหนี่ยวรั้งการเคลื่อนไหว และสุดท้ายหลายคนอาจจะคาดไม่ถึงก็คือดีไซน์ที่สามารถนํามาแต่งเติมให้มีความเป็ นเอกลักษณ์ได้ โดยดั้งเดิมเพราะตัวเสื้อมีความเรียบง่ายทําให้หลายองค์กรหรือบริษัทชื่อดังหลายบริษัทเลือกเสื้อทรงนี้มาใช้ปรับแต่งเป็นเสื้อขององค์กรได้นันเองครับ

ไอเดียในการผลิตเสื้อโปโล

พอได้รู้จักเสื้อโปโลกันคร่าว ๆ แล้วเรามาพูดถึงไอเดียการผลิตเสื้อโปโลสําหรับคนที่อยากทําแบรนด์เป็นของตัวเองกันบ้างดีไหมครับ อย่างที่ผมได้บอกไปก่อนหน้านี้ด้วยการที่ดั้งเดิมแล้วเสื้อโปโลค่อนข้างเป็นเสื้อทรงที่มีความเรียบง่ายและดูสุภาพทําให้เหมาะกับทุกเพศทุกวัยเลยทีเดียว การออกแบบลวดลายจึงอยากให้เน้นในเรื่องความเรียบง่ายไม่ฉูดฉาดเกินไปครับ ลองเริ่มต้นจากการดูกลุ่มเป้าหมาย หรือจุดมุ่งหมายที่จะนําเสื้อไปสวมใส่ก่อนก็ได้นะครับ เช่น ถ้าหากคุณมีเป้าหมายอยากทําเสื้อโปโลสําหรับสวมใส่เล่นกีฬาออกกําลังกายทัวไป ่ ลวดลายดีไซน์ภายนอกสามารถยืดหยุ่นได้ครับ เพิ่มความสวยงามด้วยการปักเล็ก ๆ น้อย ๆให้ดูมีเอกลักษณ์ หรือเพิ่มลายบนเนื้อผ้าก็ได้ แต่ที่สําคัญคือควรเลือกเนื้อผ้าที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการระบายอากาศและความยืดหยุ่นเป็ นพิเศษอย่างผ้า Dry Tech ซึ่งผ้าชนิดนี้อาจจะมีราคาค่อนข้างสูงหากเทียบกับผ้าชนิดอื่น แต่ก็แลกมาด้วยคุณภาพและคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมสําหรับใช้ออกกําลังกายได้ แต่ถ้าหากคุณต้องการผลิตเสื้อที่มีต้นทุนตํ่าลงมา ลองเลือกใช้ผ้า TC, หรือ CVC ก็ได้ครับ แต่ในกรณีที่คุณต้องการออกแบบเสื้อสําหรับสวมใส่ทัว่ ไปในชีวิตประจําวัน เน้นความเรียบง่ายเนื้อผ้าแบบ Enduranceก็เป็ นตัวเลือกที่เหมาะสม อาจใช้การตกแต่งด้วยการปักโลโก้ที่บริเวณหน้าอกเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะแบรนด์ มีการออกแบบแขนเสื้อโดยใช้สีที่แตกต่างก็เพิ่มความโดดเด่นได้ เพียงเท่านี้ก็สร้างแบรนด์เสื้อโปโลได้ด้วยตัวเองแล้วครับ สุดท้ายนี้อย่างที่ผมเคยกล่าวไปหลาย ๆ บทความ โรงงานผลิตเสื้อต่างก็มีวัสดุเนื้อผ้าที่ใช้ในการผลิตที่แตกต่างกัน คุณควรพูดคุยและปรึกษากับผู้ผลิตก่อนเริ่มต้นการผลิตนะครับ เพราะนอกจากชนิดผ้าที่ผมได้ กล่าวไปข้างต้น จริง ๆ แล้วยังมีผ้าอีกหลายชนิดมากที่สามารถนํามาผลิตเสื้อโปโลได้ เช่น TK, Cotton,Polyester ฯลฯ ครับ

หากคุณอยากผลิตเสื้อสามารถเข้าไปดูข้อมูลเบื้องต้นได้ที่นี่เลยครับ

 https://mala-thong.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%97%e0%b8%b3-%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%8b%e0%b8%b2%e0%b8%9c%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%96%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%9c%e0%b9%89%e0%b8%b2/

ที่มีภาพ
https://www.freepik.com/free-photo/still-life-hanging-bag_94948952.htm#fromView=search&page=1&position=32&uuid=59b04451-d397-4324-a818-4c2202f523ee